วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มีน้ำยาล้างรถเอนกประสงค์ L.O.C. มาแนะนำครับ ของดีต้องแบ่งปัน

คุณประโยชน์
- ใช้ล้างและเคลือบเงาในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องล้างด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง
- ขจัดคราบสกปรก คราบน้ำมัน ซากแมลง ฯลฯ ได้ดี
- ประหยัด เวลา น้ำ สถานที่ เงิน
- เป็นแชมพูที่เข้มข้นจึงใช้ปริมาณน้อย

การทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพอัญชัน

การทำน้ำยาอเนกประสงค์ชีวภาพอัญชัน
ใช้ซักผ้า-ล้างจาน-อาบ-ล้างหน้าวันก่อนน้ำยาซักผ้าหมดพอดี จึงได้ทำใหม่ สูตรนี้เราทำแบบพอเพียงคือค่าใช้จ่ายน้อย ไม่เกิน 100 บาท ทำได้ประมาณ 8-10 ลิตรสามารถนำไปใช้ล้างจาน ซักผ้า ล้างหน้า หรืออาบน้ำ ได้ ประหยัดได้หลายทาง แต่ขอบอกก่อนว่าสูตรนี้ไม่มีกลิ่นน้ำหอมเนื่องจากเราเน้นเรื่องความพอเพียง
และหลีกเลี่ยงสารเคมีที่ไม่จำเป็น ลองคำนวณการลดค่าใช้จ่ายดูเช่น

1. ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำยาล้างจาน
2. ไม่ต้องจ่ายค่าสบู่อาบน้ำ (ใช้แล้วผิวนุ่มกว่าใช้สบู่)
3. ลดการจ่ายค่าน้ำยาซักผ้าเดือนละ 300 บาท เหลือเพียง 100 บาท
ได้น้ำยาประมาณ 12 ลิตร รวมแล้วต่อเดือนเราจะประหยัดเงินได้เกือบ 400 บาทเชียวนะ
ส่วนผสมคือ1. ตัวน้ำยาซักผ้าหรือซักล้างใช้สาร N 70 ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท
2. เกลือเพื่อใช้ปรับความหนืดความข้น ความเหลวของน้ำยาประมาณ 1 ก.ก. (12 บาท)

3. น้ำชีวภาพอัญชันที่เราหมักได้จากการแนะนำคราวที่แล้ว สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรีย และให้สีสวย โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารกันบูด ประมาณ 1 แก้ว (ขวดน้ำผลไม้ 250 มล.) 4. น้ำเปล่า 8-10 ลิตร
ขั้นตอนการทำ1. เตรียมส่วนผสมทั้ง 4 อย่าง
2. เท N 70 ใส่ลงในถังใช้ไม้พายคนเบาๆไปทางเดียวกัน ให้ขึ้นขาวฟู ถ้าหนืดเกินไป รู้สึกหนักมือให้ค่อยๆโรยเกลือลงไป (หรืออาจผสมน้ำเกลือใช้แทนได้)
3. จากนั้นค่อยๆใส่น้ำชีวภาพอัญชันเพื่อให้มีสีสวยงาม
4. ทีนี้ก็ทำสลับกันเรื่อย ถ้าหนืดเหนียวให้เติมเกลือ แล้วเติมน้ำ ถ้าเหลวไปจากการเติมน้ำมากก็เติมเกลือ จะทำให้หนืดข้นเช่นเดิม ทำเช่นนี้ไปเรื่อยจนส่วนผสมที่เตรียมไว้หมด
สุดท้ายตรวจดูความเหลวตรงความพอใจของเรา ทิ้งไว้ 1 คืนอาจทำให้หนืดขึ้นอีกเล็กน้อย ทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว รุ่งเช้าน้ำยาเอนกประสงค์ที่ได้ จะใสและไม่มีฟอง จากนั้นให้เรากรอกใส่ภาชนะที่ต้องการเก็บไว้ใช้ เราจะได้น้ำยาสีสวย สีม่วง-อมชมพู
จากการใช้มาอย่างต่อเนื่อง น้ำยาอเนกประสงค์อัญชันจะมีการเปลี่ยนสีเนื่องจากเราไม่ใส่ผงสีในขั้นตอนการทำ
ดังนั้นสีจึงซีดง่ายกลายเป็นสีขาว
วิธีการแก้ไข : ผู้เขียนเติมหัวเชื้อชีวภาพอัญชันที่หมักไว้ลงไป 1 หยดหรือมากกว่า แล้วแต่ชอบ เขย่าให้เข้ากัน ก็ได้สีสวยดังเดิม

สรุปเปรียบเทียบ - จากการใช้ได้เห็นความแตกต่างคือ
- หากลืมตากผ้าในทันที ทิ้งไว้หลายชั่วโมง ผ้าก็ไม่เหม็นทั้งนี้เนื่องจากน้ำชีวภาพอัญชัน
มีสรรพคุณดับกลิ่น กำจัดแบคทีเรีย/จุลินทรีย์ตัวร้าย
- เมื่อใช้ล้างจาน มือจะไม่ลอกเป็นขุยเหมือนใช้น้ำยาล้างจานตามท้องตลาด เนื่องจากเราไม่ใช้สารขจัดคราบ หากในบางจุดของภาชนะยังมี
ความมันอยู่ ให้เทน้ำยาชีวภาพอัญชันลงไป แล้วล้างเฉพาะที่ ล้างทำความสะอาดอีกครั้ง จะพบว่าขจัดความมันได้ดี

ที่สำคัญคือ เราเกิดความภาคภูมิใจที่เราสามารถนำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ปล่อยให้เป็นขยะ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการทำความดีเพื่อในหลวงค่ะ

- ใช้ทำความสะอาดได้ตามสภาพความสกปรก
เช่น ใช้ล้างตามปรกติเมื่อมีความสกปรกจากดินหนาหรือโดยน้ำทะเล
ใช้วิธีพ่นและเช็ดแห้งในสภาพที่มีดินทรายไม่มาก
คุณสมบัติพิเศษ สามารถใช้ทำความสะอาด วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ ได้ดี
ล้างรถได้เอง โดยไม่ต้องใช้น้ำ ล้างได้ทุกที่ ง่ายเพียงฉีดแล้วเช็ด ครั้งละ 4 บาท เท่านั้น

สนใจ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

http://www.facebook.com/pages/LOC-wash-wax/208480285913161

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

นำยาอเนกประสงค์



1.ชื่อเรื่อง   การทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
2.ชื่อผู้ร่วมดำเนินการจัดการความรู้               
2.1  ชื่อผู้บริหาร  นายสมาน ขอดจันทึก  เกษตรอำเภอโนนสูง                
2.2  ชื่อสกุลผู้ดำเนินการ  นางสิริพร หมีทอง  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว                
2.3  ชื่อสกุลผู้จดบันทึก  นางสาวอาจรี วิเศษศรี   นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว                
2.4  ชื่อสกุลเจ้าขององค์ความรู้  นางถนอมสิน จูงกลาง บ้านเลขที่ 5  หมู่ที่ 6   ตำบลใหม่   อำเภอโนนสูง  จังหวัดนครราชสีมา
3.วันเดือนปี  ที่ดำเนินการจัดการความรู้    29  กรกฏาคม  2551
4.  สถานที่ดำเนินการจัดการความรู้  ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุม  หมู่ที่ 6  ตำบลใหม่  อำเภอโนนสูง  จังหวัดนครราชสีมา
5.   ส่วนนำ   มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 3 เมตร ในชนบทมีการปลูกมะกรูดเพื่อใช้สอยแทบทุกครัวเรือน ใบมะกรูดนำไปซอยหรือเด็ดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ปรุงรสในต้มยำ เปลือกผลมะกรูด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ตำรวมเป็นน้ำพริกแกง มะกรูดทั้งผลนำไปวางในห้องน้ำทำให้มีกลิ่นหอม    นอกจากนี้บางคนยังได้นำผลมะกรูดไปสระผมทำให้ผมสลวยสวยงาม  จากประโยชน์ที่ได้กล่าวมา  มะกรูดจึงเป็นพืชหนึ่งที่มีการพัฒนาใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของมะกรูด เช่นเป็นส่วนผสมของแชมพูสระผม  น้ำยาล้างจาน
6.  เนื้อหา 
      นางถนอมสิน  จูงกลาง ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2539 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอโนนสูง ได้เข้ามาส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้การทำน้ำยาล้างจานสำหรับไว้ใช้ในครัวเรือน ต่อมาปี 2548 ได้รับการฝึกอบรมการทำน้ำยาเอนกประสงค์จากน้ำหมักชีวภาพโดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้มาให้ความรู้ถึงประโยชน์ของสารที่มีอยู่ในพืชสมุนไพรอีกหลาย ๆชนิด และรวมถึงประโยชน์จากผลมะกรูดที่สามารถนำมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพใช้ทำน้ำยาล้างจานได้ โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หลังจากการอบรมแล้วก็ได้นำความรู้มาปรับปรุงส่วนผสมการหมักผลมะกรูด  ต่อมาปัจจุบันก็ได้นำสูตรการหมักผลมะกรูด  มาทำเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุมสำหรับจำหน่ายให้กับสมาชิกและบุคคลทั่วไป



น้ำหมักชีวภาพสูตรมะกรูด
ส่วนประกอบ
                1. มะกรูดแก่                         3              กิโกกรัม
                2. น้ำตาลทรายแดง              1              กิโลกรัม
                3. น้ำเปล่า                             10           ลิตร
วิธีทำ
                1. ใส่ตาลทรายแดง และน้ำลงไปในถังหมักคนให้ละลาย
                2. นำผลมะกรูดล้างให้สะอาด หั่นมะกรูดตามขวางหรือเป็นแว่น
                3. ใส่มะกรูดที่หั่นแล้วลงในถังหมัก ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 3 เดือน จึงนำมาใช้ได้
ข้อควรระวัง    ควรเก็บไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดดหรือถูกฝน
  
น้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
ส่วนประกอบ
                1. N70                                    1              ส่วน
                2. เกลือ                                  1              กิโลกรัมต่อน้ำ 2.5 ลิตร
                   (นำมาทำน้ำเกลือ โดยต้มน้ำเกลือ 1 ก.ก.ต่อน้ำ 2.5 ลิตร พอเกลือละลายกรองเอาแต่น้ำสะอาด)
                3. น้ำหมักมะกรูด 1              ลิต ร+ น้ำ 6 ลิตร
วิธีทำ
                1. นำ N70 มาใส่ภาชนะ ใช้ไม้พายคนให้ละลายโดยคนไปทางเดียวกัน
                2. คอยใส่น้ำเกลือทีละน้อย ๆ พร้อมกับคนไปเรื่อย ๆ จนหมด
                3. เติมน้ำหมักมะกรูดเช่นเดียวกับเติมน้ำเกลือ พร้อมกับคนไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วตั้งทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ฟองหมดจึงบรรจุใส่ขวด
ประโยชน์   ใช้ล้างจาน , ใช้ซักผ้า , ใช้ชะล้างอื่น ๆ

7. ส่วนสรุป : การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลมะกรูดก็เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่มีการพัฒนาวิธีการใช้ประโยชน์จากมะกรูดอย่างต่อเนื่อง การทำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนมาก นอกเหนือจากนำมาใช้ในครัวเรือนแล้วยังสามารถนำมาจำหน่ายในชุมชนทำให้มีรายได้เพิ่มและยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีก  สำหรับเกษตรกรอีกหลาย ๆ คนจะลองหันมาทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดดูบ้างก็ไม่เป็นการผิดกติกาอย่างใด  ซึ่งถ้าหากสนใจผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักมะกรูดหรือต้องการจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ นางถนอมสิน  จูงกลาง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุม หมู่ที่  6  ตำบลใหม่  อำเภอโนนสูง   จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 08-17899022




อาหารสมุนไพร

เมี่ยงคำ

เมี่ยงคำเป็นอาหารที่คนภาคกลางนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบและยอดอ่อนมากที่สุดและรสชาติดีแต่จริงๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อยหรือจะรับประทานเพื่อการดูแลสุขภาพ (การปรับสมดุลธาตุในร่างกาย) วัตุดิบในการทำเมี่ยงคำ
  1. ใบชะพลู หรือใบทองหลาง
  2. มะพร้าวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ คั่ว
  3. หอมแดงหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า
  4. ขิงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
  5. มะนาวหั่นทั้งเปลือกเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
  6. พริกขี้หนูซอย
  7. ถั่วลิสงคั่ว
  8. กุ้งแห้ง (เลือกที่เป็นชนิดจืด)
น้ำราดเมี่ยงคำ
  1. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
  2. กะปิ (เผาเพื่อเพิ่มความหอม)
  3. น้ำปลาอย่างดี 1 ถ้วย
  4. ข่าหั่นละอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ตะไคร้หั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. กุ้งแห้งโขลกละเอียด 1/4 ถ้วย
ขั้นตอนการทำ
  1. คั่วมะพร้าว ในกระทะโดยใช้ไฟอ่อน จนได้มะพร้าวคั่วที่กรอบหอม
  2. ทำน้ำราดเมี่ยงคำ โดยเริ่มจาก ตำโขลก ตะไคร้ ข่า หอมแดงเข้า และกะปิเข้าด้วยกันให้ละเอียด เคี่ยวจนน้ำราดเมี่ยงคำเริ่มเหนียว ยกลงแล้วใส่กุ้งแห้งคั่ว
  3. เคี่ยวน้ำตาลปี๊บด้วยไฟปานกลาง และเติมน้ำปลาลงไป
  4. ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไป คนให้เข้ากัน
  5. อาจเสริ์ฟเป็นคำๆ โดย ห่อเครื่องต่างๆ ด้วยใบชะพลู หรือใบทองหลาง แล้วเสียบไม้จิ้มฟันเป็นคำไว้ แล้วตักน้ำราดเมี่ยงคำใส่ถ้วยแยกไว้ต่างหาก
วิธีการจัดรับประทานให้จัดใบชะพลูหรือใบทองหลางใส่จานวางเครื่องปรุงอย่างละน้อยลงบนใบชะพลู หรือใบทองหลางที่จัดเรียงไว้ตักน้ำเมี่ยงหยอดห่อเป็นคำๆ รับประทาน
สรรพคุณทางยา
  1. มะพร้าว รสมันหวาน บำรุงกำลัง บำรุงเส้นเอ็น ใช้รักษาโรคกระดูก
  2. ถั่วลิสง รสมัน บำรุงเส้นเอ็น บำรุงธาตุดิน
  3. หอมแดง รสเผ็ดร้อน แก้ไข้เพื่อเสมหะ บำรุงธาตุ แก้ไข้หวัด
  4. ขิง รสหวาน เผ็ดร้อน แก้จุดเสียด แก้เสมหะ บำรุงธาตุ แก้คลื่นเหียนอาเจียน
  5. มะนาว เปลือกผล รสขม ช่วยขับลม น้ำมะนาวรสเปรี้ยว ขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน ฟอกโลหิต
  6. พริกขี้หนู รสเผ็ดร้อน ช่วยเจริญอาหาร ขับลม ช่วยย่อย
  7. ใบชะพลู รสเผ็ดเล็กน้อย แก้ธาตุพิการ ขับลม
  8. ใบทองหลาง ขับพยาธิไส้เดือน แก้ตาแดง ตาแฉะ ตับพิษ
  9. ข่า รสเผ็ดปร่าและร้อน ช่วยขับลม ขับพิษโลหิตร้ายในมดลูก ขับลมในลำไส้
  10. ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร และขับเหงื่อ
ประโยชน์ทางอาหารเมี่ยงคำเป็นอาหาร ช่วยบำรุงธาตุ ปรับธาตุชั้นหนึ่งในเครื่องเมียงคำที่ประกอบด้วยใบชะพลู มะนาว บำรุงธาตุน้ำ พริก หอม บำรุงธาตุลม ขิงและเปลือกมะนาว บำรุงธาตุไฟ มะพร้าว ถั่วลิสง น้ำตาล กุ้งแห้ง บำรุงธาตุดิน เมื่อทำเมี่ยงคำเป็นอาหารว่าง ผู้รับประทานสามารถปรุงตามสัดส่วนที่สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือนของตนได้ หรือปรุงสัดส่วนตามอาการที่ไม่สบายได้อย่างเหมาะสม
คุณค่าทางโภชนาการเมี่ยงคำ 1 ชุด ให้พลังงานต่อร่างกาย 659 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย
  • โปรตีน 114 กรัม
  • ไขมัน 88.6 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรต 370.7 กรัม
  • กาก 9.6 กรัม
  • ใยอาหาร 13.4 กรัม
  • เถ้า 6.4 กรัม
  • แคลเซียม 1032 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 1679.1 มิลลิกรัม
  • เหล็ก 51.1 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 4973.7 IU
  • วิตามินบีหนึ่ง 140.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินบีสอง 1.7 มิลลิกรัม
  • ไนอาซิน 35.2 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 186.4 มิลลิกรัม

อาหารสมุนไพร